เจริญ สิริวัฒนภักดี ใครจะไปเชื่อว่าประเทศเล็กๆ ของเรา จะมีศักยภาพด้านเศรษฐกิจติดอันดับโลก โดยเจ้าของธุรกิจชาวไทย 6 ราย ถูกจัดให้รวยขั้นมหาเศรษฐี รวมอยู่ใน 500 คนของโลก “Bloomberg Billionaires Index” สหรัฐอเมริกา ปี 2019 มี คุณเจริญ สิริวัฒนภักดี นักธุรกิจชาวไทยเชื้อสายจีน ซึ่งมีทรัพย์สมบัติ ติดอันดับที่ 310 ด้วยทรัพย์สินมูลค่ารวม 5.15 พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 1.60 แสนล้านบาทไทย คนรวยที่สุดในโลก
นายกองเอกเจริญ สิริวัฒนภักดี (กองอาสารักษาดินแดน) ประกอบธุรกิจหลายแขนง อาทิ อุตสาหกรรมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ฯลฯ ปัจจุบันดำรงตำแหน่งเป็นประธานกรรมการบริษัทไทยเบฟเวอเรจ ถึงแม้ว่าจะถูกล้มแชมป์อันดับ 1 ของประเทศไทย โดยคุณนายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานอาวุโสเครือเจริญโภคภัณฑ์ (CP) ไปเมื่อปีก่อน แต่ชื่อเสียงและความเติบโตในการทำธุรกิจระดับโลกไม่ได้ลดน้อยถอยลง ทีมข่าวเจาะประเด็นไทยรัฐออนไลน์ ย้อนประวัติความเป็นมากว่าจะมีวันนี้ของ คุณเจริญ สิริวัฒนภักดี มหาเศรษฐีของไทย
จบ ป.4 เกิดจากครอบครัว “ขายหอยทอด”
เจริญ สิริวัฒนภักดี คุณเจริญ สิริวัฒนภักดี เกิดเมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2487 นามสกุลเดิมคือ ศรีสมบูรณานนท์ ชื่อจีน คือ โซวเคียกเม้ง หรือเรียกว่า เม้ง เป็นคนจีนแต้จิ๋ว เป็นบุตรคนที่ 2 ของนายติ่งเลี้ยง แซ่โซว และนางเซียงเต็ง แซ่แต้ มีพี่น้องทั้งหมด 11 คน เป็นชาย 6 คน หญิง 5 คน
ครอบครัวของคุณเจริญ มีอาชีพขายหอยทอด อยู่ในซอยติดกับโรงเรียนเผยอิง ย่านจักรวรรดิ เค้าถูกอบรมแบบคนจีนสมัยก่อน ท้ายที่สุด คุณเจริญ เรียนจบเพียงชั้น ป.4 ที่โรงเรียนเผยอิง โดยคุณเจริญเป็นคนมีหัวการค้าตั้งแต่เด็กๆ เอาของมาขายในโรงเรียนเป็นประจำ เป็นคนอ่อนน้อมถ่อมตน เป็นที่เอ็นดูของผู้ใหญ่ เมื่ออายุได้ 11 ขวบ จึงเลิกเรียนหนังสือ ไปรับจ้างเข็นรถสินค้าและขายของตามฟุตปาท และใช้ชีวิตด้วยความคิด ประหยัดอดออม จวบจนมีโอกาสได้ย่างก้าวเข้าไปสู่แวดวงธุรกิจใหญ่โต มหาเศรษฐีของไทย
ประกอบธุรกิจมากมายขยายอาณาจักรระดับโลก
คุณเจริญ สิริวัฒนภักดี ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ทีซีซี แลนด์ แอสเสท เวิรด์ จำกัด ประธานกรรมการบริษัท บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) เจ้าของบริษัทเบียร์ช้าง และ บริษัทในเครือ สมาชิกสมาคมวัฒนธรรมและเศรษฐกิจไทย-จีน คนรวยที่สุดในโลก ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ในคณะกรรมการมูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด อดีตอุปนายกอาวุโส ในสมาคมกรีฑาแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ นอกจากนั้นยังเข้าเป็นผู้สนับสนุนหลักของสโมสรฟุตบอลเอฟเวอร์ตันในฟุตบอลพรีเมียร์ลีก เจ้าของกิจการ โรงแรม พลาซ่า แอททินี่ ในกรุงเทพมหานคร และในนครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา
ย้อนไป เมื่อปี พ.ศ. 2504 คุณเจริญ ได้เป็นลูกจ้างของชาวจีนที่อพยพมาอยู่เมืองไทยคนหนึ่ง ในบริษัท “ย่งฮะเส็ง” และห้างหุ้นส่วนจำกัด “แพนอินเตอร์” ที่จัดส่งสินค้าให้ “โรงงานสุราบางยี่ขัน” นำมาสู่การรู้จักกับ “นายจุล กาญจนลักษณ์” ผู้เชี่ยวชาญการปรุงรสสุรา “แม่โขง” เข้าสู่วงการธุรกิจสุราด้วยการชวนของ “เถลิง เหล่าจินดา” แห่งกลุ่มสุราทิพย์ ผู้ซึ่งต่อมาเป็นปรปักษ์กับตระกูลเตชะไพบูลย์ ซึ่งถือเป็นเจ้าพ่อในวงการนี้มายาวนาน
ในปี พ.ศ. 2525 “เถลิง เหล่าจินดา” ตัดสินใจวางมือ จากนั้นคุณเจริญ ขยับนั่งเก้าอี้บริหารงานเต็ม และสามารถเอาชนะกลุ่มเตชะไพบูลย์ โดยเข้ายึดครองกลุ่มสุรามหาราษฎร อย่างสิ้นเชิงในปี พ.ศ. 2530 ในขณะเดียวกันนั้น พ่อตาของคุณเจริญ (นายกึ้งจู แซ่จิว) ก็เข้ายึดกิจการบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์มหาธนกิจจากตระกูลเตชะไพบูลย์อีกสายหนึ่ง มหาเศรษฐีของไทย
ต่อมาคุณเจริญและพ่อตา ซึ่งมีสองขาทางธุรกิจที่หนุนเนื่องกัน (ธุรกิจสุราและการเงิน) กำลังเริ่มเติบโตอย่างยิ่งใหญ่ในปี พ.ศ. 2530 เขาก็เข้ายึดครองกิจการการเงิน ทั้งธนาคารและบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ไว้ ทั้งๆ ที่ธุรกิจการธนาคารสำหรับสังคมไทย ถูกปิดตายสำหรับคนนอกมาตั้งแต่หลังสงครามโลกครั้งที่สอง จากจุดนี้จึงถือว่า เจริญ สิริวัฒนภักดี สร้างอาณาจักรที่มั่นคงและโหมโรงการขยายตัวอย่างเชี่ยวกรากในเวลาจากนั้นมา
เส้นทางการเติบโต
- ปี 2518 บริษัท ธารน้ำทิพย์ ผู้ผลิต ธาราวิสกี้ ของ พงส์ สารสิน และ ประสิทธิ์ ณรงค์เดช ประสบภาวะขาดทุนและประกาศขาย กลุ่มเจ้าสัวเถลิงและคุณเจริญจึงเข้าซื้อกิจการ ซึ่งก็คือบริษัท แสงโสม ในปัจจุบัน
- ปี 2529 คุณเจริญ ที่ได้กลายเป็นเจ้าสัวไปแล้ว ได้เข้าสู่ธุรกิจธนาคารและการเงิน ด้วยความช่วยเหลือของพ่อตา เข้าไปซื้อหุ้นในธนาคารมหานคร บริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ มหาธนกิจ ซื้อหุ้นในบริษัท อาคเนย์ประกันภัย และอีกหลายกิจการ
- ปี 2537 ซื้อกิจการกลุ่มโรงแรมอิมพีเรียล ที่มีโรงแรมในเครือจำนวนมากจาก นายอากร ฮุนตระกูล และจากนั้นเจ้าสัวเจริญก็ขยายธุรกิจอย่างไม่เคยหยุดยั้งจนกระทั่งถึงปัจจุบัน โดยมีทายาท 5 คน พร้อมสานต่อ คือ นางอาทินันท์ พีชานนท์, นางวัลลภา ไตรโสรัส, นายฐาปน สิริวัฒนภักดี, นางสาวฐาปนี สิริวัฒนภักดี และนายปณต สิริวัฒนภักดี
- ปี 2549 การเทคโอเวอร์ โออิชิ กรุ๊ป (OISHI) ของ ตัน ภาสกรนที
- ปี 2550 หุ้นยูนิเวนเจอร์ (UV)
- ปี 2551 ตึกเนชั่น
- ปี 2553 บริษัทเสริมสุข
- ปี 2559 สร้างความฮือฮาวงการธุรกิจไทย กว้านซื้อหุ้นบิ๊กซี จากกลุ่มบริษัทค้าปลีกรายใหญ่ของฝรั่งเศส
- ปี 2555 วันที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2555 ได้รับพระราชทานยศกองอาสารักษาดินแดน เป็นนายกองเอก
ส่วนผลิตภัณฑ์ภายใต้กิจการของเจ้าสัวเจริญ ที่พบเห็นกันบ่อยเป็นประจำประกอบด้วย โออิชิ (ทั้งร้านอาหาร และเครื่องดื่ม), เบียร์ช้าง, สุราแสงโสม, Blend285, แรงเยอร์, est และกลุ่มธุรกิจสื่ออย่าง อมรินทร์พริ้นติ้ง แอนด์ พับลิชชิ่ง รวมถึงแลนด์มาร์กดังริมเจ้าพระยาอย่างเอเชียทีค ล้วนแล้วแต่เป็นของเจ้าสัวที่ชื่อว่า เจริญ สิริวัฒนภักดี ทั้งสิ้น. มหาเศรษฐีของไทย
อดทน เสียสละ เงียบ ร่าเริง
คุณเจริญ มักจะท่องไว้เสมอ 4 คำในใจ คือ “อดทน เสียสละ เงียบ ร่าเริง” เพราะความอดทน ก็คือทำให้สำเร็จ การเสียสละทำให้พ้นภัย การนิ่งเงียบทำให้มีสติ สติทำให้เกิดปัญญา ร่าเริงทำให้สุขภาพดี พร้อมมองโลกในทางบวก ถ้าจะกล่าวโดยคร่าวๆ 4 คำนี้ หมายความตรงตัวก็คือตั้งใจทำงานไม่ไปต่อล้อต่อเถียงกับใคร ไม่ต้องไปสร้างเรื่องราวอะไรให้มันวุ่นวาย ถ้าเกิดมีเรื่องอะไรก็หยวนๆ ทั้ง 4 คำนี้จึงเป็นการสะท้อนกลับสู่ตัวคุณเจริญเอง คนรวยที่สุดในโลก
สอนลูกให้ซึมซับ จดจำ เรียนรู้วิธีคิด
หลักยึดในการทำงานที่ส่งต่อสู่ลูกชาย ให้พร้อมเติบโตมาเป็นนักบริหารสืบทอด โดยการให้ลูกอยู่ในบรรยากาศแวดล้อมด้วยผู้ใหญ่ นักธุรกิจ เพื่อให้ฟัง ซึมซับ จดจำ เรียนรู้วิธีคิด“การเที่ยวเล่นซนก็มีบ้างตามประสาวัยรุ่น แน่นอนอยู่แล้ว ตอนเด็กๆ เคยไปเที่ยวต่างจังหวัดกับเพื่อนคุณพ่อ คุณพ่อถามว่าจะไปไหน ผมบอกไปชะอำ คนรวยที่สุดในโลก
คุณพ่อบอกว่า งั้นดีเลย มีคุณลุงปัญญา คุณลุงสวน ท่านก็เฮฮาดีนะ แต่ผมไปกับเพื่อนผมด้วยนะ เพียงแต่ว่าไปไหนก็มีผู้ใหญ่ไปด้วย ตั้งแต่เด็กๆ มาผมก็เป็นคนค่อนข้างจริงจัง อาจจะโตกว่าวัย อาจจะเป็นเพราะว่าตอนเด็กๆ ใกล้ชิดกับคุณพ่อคุณแม่ โดยเฉพาะคุณพ่อ เวลาว่างก็ออกไปข้างนอกกับคุณพ่อ ได้ไปเจอะเจอนั่งฟังผู้ใหญ่คุยกัน ได้เก็บรายละเอียด บางทีเราฟังตอนนั้นก็ไม่ค่อยเข้าใจ” เป็นคำพูดของ ฐาปน สิริวัฒนภักดี